แล้ว เมานี่ มีดีอะไรนิยายของเขาถึงเข้าตานัก? จำต้องพูดว่านิยายของเมานี่ มักจะมีรายละเอียดที่มากแถมเขายังให้รายละเอียดก้าวหน้าสำหรับเพื่อการเขียนด้วย ถ้าเกิดจะให้เห็นภาพบางครั้งก็อาจจะลองนึกถึงเรื่อง Lord of The Rings มองนะครับ เพียงแค่แต่งนิยายเพียงแค่เรื่องเดียว โทลคีน ถึงกับสร้างภาษาเอลฟ์ขึ้นมาใช้เองเลยทีเดียว มีทั้งตัวอักษร ทั้งยังคำอ่านอะไรทำนองนั้น เมานี่ก็แบบเดียวกัน เขาได้สร้างลำดับชั้น อาชีพ วิชา ต่างๆออกมาใหม่ได้น่าดึงดูดมากมายๆแล้วเขาก็หยิบยกมาใช้ได้ดี แถมแต่ละเรื่องเขายังแปลงเนื้อหาพวกนั้นออกไปแตกต่างกันอีกด้วย (ไม่เสมือนจักรวาลกิมย้ง ที่มักจะใช้วิชา หรือเผ่าพันธุ์สำหรับเพื่อการเชื่อมต่อนิยายแต่ละเรื่องของเขา) ที่ผมเกริ่นมานานขนาดนี้ไม่ใช่อะไรหรอก ต้องการจะพูดว่าด้วยเนื้อหารายละเอียดที่มาก ละครที่มาจากนิยายของเมานี่โดยมากเลยมักจะปูเนื้อเรื่องนาน อย่างสยบฟ้าฯนี่ 30 ทีแรกๆเสมือนเป็นการชี้แนะสิ่งต่างๆในเรื่องผมก็แอบรู้สึกว่ามันเอื่อยๆนิดๆแบบเดียวกัน แต่ว่าใน 30 ตอนหลังนี่หยุดไม่ได้เลย โดยเหตุนี้คนที่ไม่ใช่แฟนของเมานี่บางครั้งก็อาจจะจำต้องทนๆมองไปสักนิดนึงครับผมสยบฟ้าพิชิตปฐพี
“หนิงเชวีย” (พระเอกของพวกเรา) เป็นกำพร้าคนมีชีวิตรอดเพียงแต่อย่างเดียวจากจวนแม่ทัพ “หลินกวงหย่วน” ที่ถูกยัดข้อหากบฏให้ถูกประหารทั้งยังเชื้อสาย(แต่ว่าเหตุผลจริงๆเป็นจวนแม่ทัพถูกทำนายว่าจะมีบุตรที่ “หมิงหวัง” หรือ “ดาวมรณะ” มากำเนิดที่จวนนี้) จากภาพที่ป่าเถื่อนที่เขาได้มองเห็นในวัยเด็กนั้น ทำให้หนิงเชวียตั้งปณิธานอย่างแน่วแน่ว่าจำเป็นต้องแก้เผ็ดคนที่เป็นต้นเหตุการฆ่าล้างจวนนี้ให้ได้ รวมทั้งเขาก็ดำเนินชีวิตบนแนวคิดนี้นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
กลางทางที่หนีตายออกจากเมืองหลวงประเทศถังนั่นเอง หนิงเชวียได้พบกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งร้องจากกองศพที่มองก็รู้ว่าถูกฆ่าล้างครอบครัว พร้อมร่มดำปัญหาคันหนึ่ง(มารู้ที่หลังว่าเป็นอาวุธระดับเทพ) เด็กน้อยคนนี้ชื่อ “ซังซัง” หนิงเชวียเก็บซังซังมาด้วยเนื่องจากว่ามีความคิดเห็นว่ามีเคราะห์กรรมเช่นเดียวกับตัวเองเลย ทั้งยัง 2 โตมาได้อย่างไรไม่ทราบแต่ว่าตอนที่หนิงเชวียอายุยงได้ 10ปีปลายๆเขาก็ได้ร่วมกับกองทหารเพื่อหาเงิน รวมทั้งพาซังซังเข้าไปด้วยในฐานะสาวใช้ประจำตัว